วันพุธที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2557

-> ตารางเวลาเปิด-ปิด การซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตรา Forex Exness

ตลาดซื้อขายค่าเงิน(Forex) เป็นตลาดที่ใหญ่ระดับโลกเปิดทำการซื้อขาย วันจันทร์ – ศุกร์ 24 ชั่วโมงตลาดเปิดเวลา 0:00 ตามเวลายุโรปกลาง (GMT +2) ในวันจันทร์ตลาดปิดเวลา 22:00 ตามเวลายุโรปกลาง (GMT +2) ในวันศุกร์ปิดในวันเสาร์ – อาทิตย์เนื่องจากธนาคารส่วนใหญ่ปิดทำการและการซื้อขายก็เบาบาง
ยินดีต้อนรับเข้าสู่สังคมการเทรด Forex

ตลาดซื้อขายค่าเงิน(Forex) เป็นตลาดที่ใหญ่ระดับโลกเปิดทำการซื้อขาย วันจันทร์ – ศุกร์ 24 ชั่วโมง
  • ตลาดเปิดเวลา 0:00 ตามเวลายุโรปกลาง (GMT +2) ในวันจันทร์
  • ตลาดปิดเวลา 22:00 ตามเวลายุโรปกลาง (GMT +2) ในวันศุกร์
  • ปิดในวันเสาร์ – อาทิตย์เนื่องจากธนาคารส่วนใหญ่ปิดทำการและการซื้อขายก็เบาบาง
ตลาดถูกแบ่งช่วงการซื้อขายตามภูมิภาค มี 4 ภูมิภาค
  • เอเชีย – โตเกียว ฮ่องกง และ สิงคโปร์
  • ยุโรป – แฟรงก์เฟิร์ต และ ลอนดอน
  • อเมริกา – นิวยอร์ค และ ชิคาโก้
  • แปซิฟิค – เวลลิงตัน และ ซิดนีย์
ในแต่ละช่วงการซื้อขายก็มีคุณลักษณะต่างกัน คุณต้องเข้าใจคุณลักษณะดังกล่างเพื่อที่จะหาประโยชน์จากในแต่ละช่วงการซื้อขาย

เอเชีย

การซื้อขายของสกุลเงินที่มีการซื้อขายกันมากที่สุดคือ
  • USDJPY – US dollars to Japanese Yen
  • EURUSD – US dollars to Euros
  • EURJPY – Euros to Japanese Yen
  • AUDUSD – Australian dollars to US dollars

ยุโรป

การซื้อขายของภูมิภาคนี้เป็นการซื้อขายที่มีการเคลื่อนไหวมากและอาจมีการ แกว่งตัวของค่าเงินสูงเพราะจำนวนการซื้อขายสูงเนื่องตัวเครื่องมือทางการ เงินที่มีอยู่ในยุโรป
  • การแกว่งตัวมีมากขึ้นเมื่อตลาดลอนดอนเปิด
  • ควาเคลื่อนไหวลดลงช่วงเวลาอาหารกลางวัน
  • และความเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้นอีกครั้งช่วงบ่าย

อเมริกา

ความเคลื่อนไหวของตลาดค้าค่าเงินที่มีมากที่สุดเมื่อตลาดนิวยอร์คเปิดและ นักค้าฝั่งยุโรปกลับมาจากพักกลางวัน ตลาดอเมริกามีคุณลักษณะต่อไปนี้
  • การแกว่งตัวมีน้อยเพราะธนาคารของอเมริการและยุโรปมีแรงชักจูงระดับเดียวกัน
  • การแกว่งตัวสามารถเพิ่มได้เมื่อตลาดยุโรปปิด โดยเฉพาะวันศุกร์
  • การซื้อขายจะเป็นไปด้วยความรุนแรง

แปซิฟิค

การซื้อขายจะค่อนข้างซบเซาในช่วงเวลานี้

ตลาดเปิดเมื่อไร

เวลาทั้งหมดจะถูกแสดงในรูปเวลายุโรปตอนกลาง (GMT+2)

 

ตารางเวลาของช่วงเวลาการซื้อขาย

ภูมิภาค เมือง เปิด ปิด
เอเชีย โตเกียว 1:00 9:00
ฮ่องกง 2:00 10:00
สิงคโปร์ 1:00 9:00
ยุโรป แฟรงก์เฟิร์ต 7:00 15:00
ลอนดอน 8:00 16:00
อเมริกา นิวยอร์ค 14:00 22:00
ชิคาโก้ 15:00 23:00
แปซิฟิค เวลลิงตัน 21:00 5:00
ซิดนีย์ 21:00 5:00

 

บทความที่น่าสนใจ




































-> รูปแบบของกราฟ การเคลื่อนไหวของกราฟราคารูปร่างแปลกๆ ที่น่าสนใจครับ

ในแวดวงหุ้น คำว่า "ประวัติศาสตร์ย่อมซ้ำรอยเสมอ " เป็นเรื่องที่พิสูจน์แล้วว่าเป็นความจริงครับ นั่นรวมถึงรูปแบบกราฟด้วย  บางครั้งการเคลื่อนไหวของกราฟก็มีรูปร่างแปลกๆที่น่าสนใจครับ  ดังนั้นเราควรจะมาทำความรู้จักว่า กราฟมีรูปแบบไหนบ้างกันเถอะครับ 
ยินดีต้อนรับเข้าสู่สังคมการเทรด Forex

      ในแวดวงหุ้น คำว่า "ประวัติศาสตร์ย่อมซ้ำรอยเสมอ " เป็นเรื่องที่พิสูจน์แล้วว่าเป็นความจริงครับ นั่นรวมถึงรูปแบบกราฟด้วย 
      บางครั้งการเคลื่อนไหวของกราฟก็มีรูปร่างแปลกๆที่น่าสนใจครับ  ดังนั้นเราควรจะมาทำความรู้จักว่า กราฟมีรูปแบบไหนบ้างกันเถอะครับ 

กราฟแบบ Head and Shoulde
      ชื่อเหมือนยี่ห้อแชมพู แต่ไม่ใช่นะครับ  กราฟรูปแบบนี้ดูง่ายๆจะมี 3 ยอด โดยยอดตรงกลางจะสูงสุดตามรูปครับ
ตรง Neckline (ตรงหยักที่ดูเหมือนหุบเขา) ทำหน้าที่เหมือนเป็นเส้นแนวรับ ถ้าราคาหุ้นต่ำกว่าเส้นนี้ถือเป็นสัญญาณขายหุ้น  เพราะมีแนวโน้มว่าราคามีโอกาสจะลดลงอีกครับ 

http://lenhune.blogspot.com/2013/08/blog-post.html  
กราฟแบบ Head and Shoulder หัวกลับ

รูปทรงเหมือนกับ Head and Shoulder ธรรมดาครับเพียงแต่กลับหัวลง ถ้าราคาทะลุเส้น Neckline ขึ้นไปก็มีโอกาสที่หุ้นจะกลับตัวขึ้นครับ

http://lenhune.blogspot.com/2013/08/blog-post.html

กราฟแบบ Double Top
จะ มีจุดยอด 2 จุดที่ราคาใกล้ๆกัน  ลักษณะกราฟคล้ายตัว M ถ้าราคาหุ้นหลุดเส้น  Neckline ลงมาหุ้นก็มีโอกาสที่จะร่วงลงอย่างรวดเร็วครับ 
http://lenhune.blogspot.com/2013/08/blog-post.html 

กราฟแบบ Double Bottom
จะมีจุดต่ำสุด 2 จุดที่ราคาใกล้ๆกัน ลักษณะกราฟคล้ายคัว W ถ้าราคาหุ้นทะลุเส้น Neckline ขึ้นไปโอกาสที่หุ้นจะวิ่งขึ้นก็มีมากครับ

http://lenhune.blogspot.com/2013/08/blog-post.html

กราฟแบบ Triple Top
กราฟแบบนี้จะคล้ายๆ Double Top เพียงแต่มียอด 3 ยอดครับ

http://lenhune.blogspot.com/2013/08/blog-post.html

กราฟแบบ Triple Bottom

เป็นกราฟที่มีจุดต่ำสุด 3 จุด ถ้าราคาหุ้นทะลุ Neckline ขึ้นไปได้ หุ้นก็มีโอกาสที่จะวิ่งขึ้นแรงครับ


http://lenhune.blogspot.com/2013/08/blog-post.html

กราฟแบบ Cup with Handle
รูปทรงก็เหมือนกับถ้วยกาแฟ แล้วก็มีหูจับตามรูปเลยครับ  ถ้าราคาหุ้นทะลุเส้น Neckline ( ขอบถ้วย) ขึ้นไปได้ ราคามักจะพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วครับ

http://lenhune.blogspot.com/2013/08/blog-post.html
       จริงๆยังมีรูปแบบกราฟนอกเหนือจากนี้อีกหลายแบบครับ แต่สำหรับมือใหม่เอาคร่าวๆแค่นี้ก็พอครับ
ปล. เราจะเห็นว่า กราฟจริง กับรูปแบบในทางทฤษฎีมันอาจจะไม่ได้เหมือนกันเป๊ะๆ  เวลาเราดูกราฟ เราต้องใช้จินตนาการช่วยด้วยนิดนึงครับ
เครื่องมือวิเคราะห์กราฟ
เครื่องมือวิเคราะห์กราฟ MACD
MACD ย่อ มาจาก Moving Average Convergence Divergence  เป็นเครื่องมือที่บอกจุดควรซื้อ - ควรขายของหุ้น ดูได้จาก ถ้าเส้นมีการตัดลงจะเป็นสัญญาณขายหุ้น ถ้าเส้นตัดขึ้นไปก็เป็นสัญญาณซื้อหุ้น  และถ้าเส้น MACD ตัดแนวเส้น 0 ขึ้นไปก็เป็นสัญญาณซื้อ ถ้าเส้นตัดแนวเส้น 0 ลงมาก็เป็นสัญญาณขายเช่นกันครับ ดูตามรูปประกอบ 

http://lenhune.blogspot.com/2013/08/blog-post.html



เครื่องมือวิเคราะห์กราฟ RSI
RSI ย่อมาจาก Relative Strength Index
เป็น ตัวบอกทิศทางการเปลี่ยนแปลงของหุ้นครับ ถ้าเส้น RSI มีค่ามากกว่า 70 แสดงว่าราคาหุ้นมีการซื้อมากเกินไป Over Bought ให้ระวังราคาหุ้นกำลังจะเปลี่ยนทิศทางครับ และถ้าเส้น RSI มีค่าต่ำกว่า 30 แสดงว่าราคาหุ้นมีการขายมากเกินไป Over Soldให้เราเตรียมตัวดูการเปลี่ยนแปลงราคาหุ้นครับ

http://lenhune.blogspot.com/2013/08/blog-post.html

 การดูกราฟหุ้นจริงๆเราต้องดูหลายๆอย่างมาประกอบกันด้วยนะครับ ถ้าสามารถหาหนังสือที่สอนด้านนี้โดยตรงมาอ่าน จะได้รายละเอียดที่เจาะลึกมากกว่าครับ ^^

บทความที่น่าสนใจ

-> การอ่านกราฟ ตามทฤษฎีดาว (Dow Theory) และ อีลเลียต (Elliott Wave)

   แผนภูมิเส้น (Line chart) หรือ ที่บางคนเรียกว่ากราฟ เป็นเครื่องมือของการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่มีรูปแบบง่ายที่สุด และจะแสดงให้เห็นแนวโน้มหรือ ทิศทางของการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นที่เกิดขึ้นในอดีตได้อย่าง ชัดเจน
 ยินดีต้อนรับเข้าสู่สังคมการเทรด Forex

       แผนภูมิเส้น (Line chart) หรือ ที่บางคนเรียกว่ากราฟ เป็นเครื่องมือของการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่มีรูปแบบง่ายที่สุด และจะแสดงให้เห็นแนวโน้มหรือ ทิศทางของการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นที่เกิดขึ้นในอดีตได้อย่าง ชัดเจน
ราคาหุ้นที่ผ่านมา เคลื่อนไหวไปในทิศทางเช่นไร ในช่วงเวลาใด และในอัตราที่สูงชันแค่ไหน แผนภูมิเส้นจะบอกได้ โดยการนำราคาปิดของหุ้นแต่ละวันมาจุดบนกระดาษกราฟ แล้วลากเส้นต่อจุดเหล่านั้น
การอ่านแผนภูมิเส้น มีด้วยกัน 2 ทฤษฎี คือ ทฤษฎีของดาว (Dow Theory) และทฤษฎีของอีลเลียต (Elliat Curve)

ทฤษฎีของดาว

        ไม่ได้บอกอะไรมากนัก เพียงแต่แนะนำให้นัก- เล่นหุ้นสังเกตการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาว่ามีรูปแบบ เช่นไร ระดับราคาได้รับอิทธิพลจากผลกระทบของเหตุการณ์ หรือข่าวในอดีตเพียงใด
ดาวได้แบ่ง แผนภูมิเส้นว่ามี 3 แนวโน้ม คือ ราคาหุ้นที่จุดลง ไปบนกระดาษกราฟเชื่อมต่อกันวันต่อวัน จะเห็นเป็นแนวโน้มย่อย และเมื่อดูการเชื่อมต่อจุดติดต่อกันเป็นระยะเวลา 1-3 เดือน จะเห็น เป็นแนวโน้มรอง และถ้าดูต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลานาน 2-3 ปี จะ เห็นเป็นแนวโน้มใหญ่ ซึ่งแนวโน้มใหญ่ จะบอกว่าตลาดหุ้นอยู่ในภาวะ หมี (Bearish) หรืออยู่ในภาวะกระทิง (Bullish) กันแน่
แนวโน้มทฤษฏีดาว

ทฤษฎีของอีลลียต

       จะกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงของระดับราคา ที่เป็นผลลัพธ์จากอารมณ์ของผู้เล่นหุ้นที่มักจะหวั่นไหวอยู่เสมอใน รูปแบบเดียวกันซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นวงจร ซึ่งวงจรหนึ่ง ๆ จะประกอบ ด้วยคลื่นระลอกขึ้นใหญ่ และคลื่นระลอกลงใหญ่
ในภาวะกระทิง (Bull Market) ซึ่งเป็นภาวะที่หุ้นราคาสูงขึ้น ระลอกคลื่นขึ้นแบ่งเป็น 3 คลื่น แล้วก็จะถึงระลอกคลื่นลง หนึ่งคลื่น
ในภาวะหมี (Bear Market) ซึ่งเป็นภาวะที่หุ้นราคาลดลง จะกลับกัน คือระลอกคลื่นลงแบ่งเป็น 3 คลื่น แล้วก็จะถึงระลอกคลื่นขึ้นหนึ่งคลื่น
แน่นอน ในความเป็นจริงของภาวะราคาหุ้นในตลาดหุ้นจะไม่มี ทางที่จะเกิดรูปแบบแผนภูมิเส้นที่ชัดเจนอย่างที่ว่าไว้ ฉะนั้นในแต่ละ ระลอกคลื่นอาจมีคลื่นย่อย ๆ อีกหลายคลื่นก็ได้ แต่จะมีลักษณะ เหมือนระลอกคลื่นใหญ่
ทฤษฎีของอีลเลียตจะแสดงถึงอารมณ์ของนักเล่นหุ้น ที่สะท้อน ออกมาในรูปของการเปลี่ยนแปลงราคา คือ
      ในภาวะกระทิง ราคาขึ้นในระลอกคลื่นที่ 1 คนจะยังไม่มั่นใจ ว่าราคาจะขึ้นจริง จึงทำให้ระดับราคาลดลงไปที่ 2 แล้วราคาก็ขึ้นกลับไปเป็นระลอกคลื่นที่ 2 ด้วยความมั่นใจ ระลอกคลื่นลูกนี้มักจะมีระยะเวลายาวนาน แล้วก็ตกลงมาตามสภาพของการขายเก็บกำไร (Profit Taking) ราคาลงมาอยู่ที่ 4
ส่วนระลอกคลื่นที่ 3 เกิดจากความ โลภของนักเล่นหุ้นโดยไม่มีเหตุผลและข่าวสารใด ๆ เป็นแรงสนับสนุน ให้ราคาขึ้นต่อไปเลย คลื่นลูกนี้ อาจเป็นคลื่นเล็กๆแล้วสลายไป หรือ อาจเป็นคลื่นใหญ่อย่างที่คาดไม่ถึงก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าคนส่วนใหญ่ในยามนั้นเป็นคนที่มีความโลภแค่ไหนกันแน่ ฉะนั้นเมื่อถึงคลื่นที่ 3 แล้ว ราคาจะลดต่ำลงมากเป็นคลื่นในทางลง และราคาก็จะกลับขึ้นมาเล็กน้อย โดยที่ยังมีบางคนยังคงหลงมั่นใจกับสภาพตลาดหุ้นอยู่บ้าง แต่ระดับ ราคาก็กลับลดลงอย่างมากอีกครั้ง เพราะเกิดจากแรงตื่นตระหนกของนักเล่นหุ้น ที่เห็นว่าราคายังสูงเกินความเป็นจริง และไม่มีเหตุผล อันสมควรอยู่ดีตามทฤษฎีของอีลเลียต ก็ถือว่าครบวงจรพอดี และ ก็จะเริ่มวงจรใหม่ในท่านองเดียวกันอีก
อีเลียต bull market
ภาวะตลาดกระทิง ตามทฤษฏีอีลเลียต
       
       สำหรับในภาวะหมี ก็จะมีลักษณะเหมือนๆกัน คือ เมื่อราคาหุ้นที่ตกต่ำลงอย่างมาก จะเริ่มมีคนกลุ่มหนึ่งมีความเชื่อมั่นว่าราคาควรจะกลับขึ้นไป จึงมีแรงชื้อทำให้เกิดคลื่นระลอกแรกในทิศขึ้นเป็น a แต่ก็ต้องตกลงตามสภาพที่เป็นจริงที่ b
และแล้วก็มีความหลงผิด ของคนกลุ่มเก่าที่เชื่อว่าราคาหุ้นควรปรับตัวสูงขึ้น จึงซื้อหุ้นสวนทางตลาด จนทำให้ราคาหุ้นขึ้นไปที่ C จากนั้นราคาหุ้นก็มีอันต้องตกลงตามที่มันควรจะเป็น เกิดเป็นคลื่นในทิศทางลงลูกแรกที่ 1 และก็กระเด้ง ขึ้นเล็กน้อย
ต่อจากนั้นก็มีราคาตกต่อไปด้วยความมั่นใจของผู้ขายที่ เชื่อว่าเป็นภาวะหมี กลายเป็นคลื่นที่2 ส่วนคลื่นลูกสุดท้าย จะเป็นภาวะที่เกิดจากการตื่นตระหนกของนักเล่นหุ้น ซึ่งก็เช่นเดียวกัน ถ้ามีความตื่นตระหนกมาก อาจมีระดับราคาที่ต่ำมากและยาวนาน แต่ถ้ายังมีเหตุผลอยู่บ้าง หรือมีนักลงทุนที่เห็นว่าราคาตกต่ำจนคุ้มกับเงินปันผลก็จะเข้ามาชื้อเก็บไว้ ราคาก็จะตกลงเพียงเล็กน้อย และก็ถือว่าครบวงจร วงจรใหม่จะเริ่มขึ้นในทำนองเดียวกันอีก แต่ยังคงเป็นทิศทางลงเพราะเป็นภาวะหมี จะเปลี่ยนภาวะเป็นกระทิงได้ก็ ต้องมีปัจจัยพื้นฐานสนับสนุนในทางบวกสวนทางหมีได้
ภาวะตลาดหมี ตามทฤษฏีอีลเลียต

         สรุปแล้ว ทฤษฎีของดาว ก็ยังไม่บอกอะไรมากอยู่ดี บอกแต่ว่า เมื่อดูแผนภูมิเส้นในอดีตแล้ว จะเห็นเป็นแนวโน้มได้ 3 แบบ คือ
แนวโน้มใหญ่ แนวโน้มรอง และแนวโน้มย่อย อนาคตจะเป็นอย่างไร ไม่ได้บอกไว้ บอกแต่กว้าง ๆ ว่าน่าจะมีรูปแบบเช่นเดียวกับในอดีต ตัดตอนเอาเองก็แล้วกันว่าช่วงไหนเป็นแนวโน้มแบบไหน จะได้กะ ได้ถูก
สมัยก่อนราว 70ปี คนที่เชื่อทฤษฎีของดาวจึงต้องมีไม้บรรทัด รูปร่างพิลึกพิลั่น โค้งโน่นนิด เว้านี่หน่อย คอยโยงแนวโน้มของจุด แผนภูมิเส้นในอดีตดู แล้วเทียบเคียงกับปัจจุบันว่าควรจะมีแนวไป ในทิศทางใดเหมือนในอดีตช่วงใด แล้วก็ทึกทักเอาว่าต่อไปต้องเป็น อย่างนั้นอย่างนี้แน่ ๆ ซึ่งส่วนมากจะถูก เพราะถ้าเกิดผิดก็จะโทษ ตัวเองว่าลากเส้นแบบโง่ ๆ ความจริงต้องโค้งทางนี้มากกว่า เห็นไม๊ เพราะ เมื่อเวลาผ่านไปราคาจริง เกิดขึ้นแล้ว ก็จะปรับแนวโน้มให้มันตรง กับความเป็นจริง และหาเหตุผลมาอธิบายให้ได้ว่ามันเป็นจริง
เดี๋ยวนี้ เข้าใจว่าแทบจะไม่มีใครสนใจทฤษฎีของดาวแล้ว ซึ่งก็ น่าจะเป็นอย่างนั้นใช่ไหม? เพราะไม่ได้บอกอะไรเราเลย แต่อย่างว่า ถ้าไม่มีทฤษฎีของดาว ทฤษฎีของคนอื่นที่ดีกว่าก็อาจจะไม่เกิดขึ้น จึงต้องถือว่าดาว เป็นต้นแบบของการใช้กราฟ – ประกอบการวิเคราะห์ แนวโน้มของราคาหุ้น
ส่วนทฤษฎีของอีลเลียต ที่ได้แนวความคิดจากทฤษฎีของดาว ความจริงก็ไม่ได้บอกอะไรเท่าไหร่เหมือนกัน แต่ดูแล้วรู้สึกว่าจะอธิบาย ถึงเหตุและผลของอารมณ์ของนักเล่นหุ้นได้ถึงใจดีกว่า ตอนเกิดคลื่น ขึ้นลูกแรกด้วยความไม่ค่อยมั่นใจก็น่าจะมีเหตุผลสมจริง ตอนขึ้น คลื่นลูกที่สอง อธิบายได้ว่าขึ้นด้วยความมั่นใจก็มีเหตุผลดี ตอนขึ้น คลื่นลูกที่สาม ด้วยความโลภยิ่งถูกใจนักเล่นหุ้นใหญ่และก็ควรจะเป็นจริง แต่ตอนราคาลงด้วยความตื่นตระหนกนี่สิชักจะไมน่าเชื่อถือ
ทั้งที่นักเล่นหุ้นเองนั่นแหละที่ตะบี้ตะบันขายเอาขายเอา ทึ้งหุ้นที่มีอยู่ ทั้งหมดโดยไม่สนใจราคา แล้วยังปากแข็งว่าไม่ได้ตื่นตระหนกอีกรึ ก็ ไม่ชอบคำนี้นี่ครับ
ทฤษฎีของดาว และทฤษฎีของอีลเลียตรู้ไว้ก็ดี ถึงจะไม่ช่วยอะไรมากนักก็ตาม แต่ก็เตือนสตินักเล่นหุ้นได้ดีทีเดียวแหละว่า อย่าโลภและอย่าตื่นตระหนก จนเกินขอบเขตเป็นอันขาด

ที่มา : การเงินธนาคาร

บทความที่น่าสนใจ

-> รวบรวม E-book ฟรีคัดเลือกเนื้อหาดีดี แผนที่ความสำเร็จในการลงทุนเอามาให้เพื่อนนักลงทุนและผู้ที่สนใจได้อ่านกันครับ

ผมมี E-book ฟรีดีดี มาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันครับ เพื่อนๆ ท่านใด ที่สนใจในการลงทุนหรืออยากจะเอาไปอ่านเพื่อเป็นแนวทางการศึกษาก็ได้ครับ ขอขอบคุณสำหรับทุกการติดตามมาก ๆ นะครับ

 ยินดีต้อนรับเข้าสู่สังคมการเทรด Forex

สวัสดี ครับเพื่อน ๆ ผมมี E-book ฟรีดีดี มาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันครับ เพื่อนๆ ท่านใด ที่สนใจในการลงทุนหรืออยากจะเอาไปอ่านเพื่อเป็นแนวทางการศึกษาก็ได้ครับ ขอขอบคุณสำหรับทุกการติดตามมาก ๆ นะครับ 

E-book ทุกเล่นที่ผมอัพไว้เป็นไฟล์ในรูปแบบ PDF นะครับ เพื่อนๆ สามารถ ดาวโหลดไปอ่านได้โดยคลิกดาวโหลดที่รูปภาพได้เลยนัครับ 

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
http://www.ebooks.in.th/download/11319/siamchart_freechart_manual_2013
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
http://www.ebooks.in.th/download/20055/Survival_Trader_%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%94_%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A2
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
http://www.ebooks.in.th/download/10297/%E0%B8%81%E0%B8%B9%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99_%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%A2_%E0%B8%A7%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B9%8C
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
http://www.ebooks.in.th/download/4615/%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%94_11_%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%9B%E0%B8%B5_2011
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

บทความที่น่าสนใจ

-> เรื่องของการเปิดเสรีในไทยเกี่ยวกับ Forex

1. สิ่งที่เราเทรดอยู่ในเวลานี้ เป็นเพียง Futures ชนิดนึง เราไม่ได้ทำการซื้อขายแลกเปลี่ยนค่าเงินจริงๆ ฉะนั้นข้อห้ามที่ว่า ห้ามบุคคลธรรมดาซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตรา จึงเป็นคนละประเด็น บุคคลธรรมดาทั่วไปย่อมมีเสรีภาพในการเลือกลงทุนอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นใน ประเทศ หรือต่างประเทศ แต่ที่เรา
สมัค Exness คลิก

http://lenhune.blogspot.com/2013/08/blog-post.html
        1. สิ่งที่เราเทรดอยู่ในเวลานี้ เป็นเพียง Futures ชนิดนึง เราไม่ได้ทำการซื้อขายแลกเปลี่ยนค่าเงินจริงๆ ฉะนั้นข้อห้ามที่ว่า ห้ามบุคคลธรรมดาซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตรา จึงเป็นคนละประเด็น บุคคลธรรมดาทั่วไปย่อมมีเสรีภาพในการเลือกลงทุนอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นใน ประเทศ หรือต่างประเทศ แต่ที่เราเลือกเทรด Forex ที่ต่างประเทศ มากกว่าเลือกเปิดบัญชี เทรด future ที่บ้านเรานั้น ก็เนื่องด้วยเงินลงทุนที่น้อยนิด เทียบกันไม่ได้เลย กับการเปิดบัญชี Futures ที่บ้านเราฉะนั้นการเปิดบัญชี Forex จึงไม่ใช่เรื่องที่ผิดกฎหมายใดๆ สามารถทำได้ และไม่มีข้อห้าม เพราะถือเป็นการลงทุน และการหารายได้ชนิดหนึ่ง ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการไปซื้อหุ้นที่ต่างประเทศ เช่น ซื้อหุ้นที่อเมริกา หรือ ญี่ปุ่น

       2. การเทรด Forex ส่วนใหญ่ก็ล้วนอาศัยปัจจัยทางด้านเทคนิคมากกว่า ผมจึงเห็นแย้งกับบางท่าน ที่ว่าเปิด Forex ในไทย แล้วทำให้เกิดการพัฒนาด้านองค์ความรู้ในการเทรด ปัจจุบันไม่ว่าการเทรดหุ้น ทอง หรือสัญญา Futures ก็ล้วนใช้เทคนิคมาอธิบายความเป็นไปทั้งสิ้น มีพื้นฐานการเรียนรู้เหมือนกัน และอีกอย่างบทวิเคราะห์ไม่ว่าจะเป็นทางด้านพื้นฐาน หรืิอ เทคนิคดีๆ เกี่ยวกับ Forex ก็ล้วนหาอ่านได้ตามเว็บต่างประเทศมากมาย และสถาบันที่เปิดสอนเกี่ยวกับการวิเคราะห์ด้านเทคนิคก็มีมากมายอยู่แล้ว ซึ่งเมื่อไปเรียนก็สามารถนำมาใช้ได้ทุกตลาด ไม่ต่างกัน

        3. ผู้เทรด Forex ในไทย ล้วนเป็นนักลงทุนรายย่อย กว่า 80% มีทุนในการเปิดบัญชีไม่เกิน 50,000 บาท ฉะนั้นหากมีการเปิดเสรีในไทย นักลงทุนรายย่อยกลุ่มนี้ก็คงไม่ได้รับความสนใจเท่าไรนัก เพราะว่าในอนาคตเมื่อเปิดเสรีค่าคอม โบรกเกอร์จะหันไปดึกนักลงทุนรายใหญ่ๆ ส่วนรายย่อยนั้นไร้ความสำคัญ และไม่คุ้มต่อต้นทุนของโบรกเกอร์ผู้ให้บริการเท่าใดนั้น อีกประการ คือ การที่เราเปิดบัญชี Forex ที่ต่างประเทศ ค่าคอมถูกมาก หรือ บางโบรกแทบไม่มีเลย แน่นอนหาก ไทย มีการอนุญาตให้เปิดอนุญาตให้โบรกเกอร์มีบริการซื้อขาย Forex ค่าคอมย่อมสูงกว่าหลายเท่าตัว

        4. สิ่งที่นักเทรด Forex ควรทำความเข้าใจคือ ประเด็นการเสียภาษีเมื่อมีรายได้จากการลงทุนมากกว่า นั้นคือสิ่งที่น่ากลัว เพราะว่า กำไรจากการเทรด ถือเป็นรายได้ ฉะนั้นเมื่อมีรายได้ถึงเกณฑ์ที่กำหนด ก็ย่อมต้องเสียภาษีด้วย แต่ประเด็นก็คือว่า ส่วนใหญ่มักจะขาดทุน หรือว่า เมื่อได้กำไรมา ก็ไม่ถึงเกณฑ์ภาษีที่กำหนด ฉะนั้นเรื่องภาษีจึงตกไป

         ฉะนั้นให้ทุกคน สบายใจได้เลยว่า การที่ท่านนั่งหลังขดหลังแข็ง เฝ้าหน้าจอทำการเทรด ไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมายแต่อย่างใด เพราะกฎหมายไม่ได้ห้าม ไม่ต่างอะไรจากการไปซื้อหุ้นที่ต่างประเทศ และหากมีการเปิดเสรี Forex ในไทยจริงๆ มีโบรกเกอร์ที่ได้รับอนุญาตเกี่ยวกับการซื้อขาย Forex ในไทยจริงๆ ก็คาดว่าหลายท่านก็คงไม่เลือกใช้บริการอยู่ดี เหตุเพราะ มีค่าคอมมิชั่นสูง จำนวนทุนในการเปิดบัญชีสูง และที่สำคัญ วอลุ่มน้อยมาก นั้นเอง (ขนาด Futures เปิดมานานแล้ว วอลุ่ม Bid offer ยังโชว์ไม่ถึง 100 สัญญา) และประเด็นสุดท้าย ไม่ว่าจะในประเทศที่เจริญแล้ว หรือว่ายังไม่เจริญ ไม่ได้เกี่ยวข้องว่าจะทำให้มีการเทรดเป็นอาชีพมากขึ้น แต่อย่างใด ตลาดหุ้นเปิดมากว่า 30 ปี ก็ยังมี แมงเม่าเหมือนเดิม มีคนที่สำเร็จ 10% และ คนที่ล้มเหลว 90% เหมือนเดิม

        ฉะนั้นเราสามารถ เลือกเองได้ว่าจะเลือกเทรดเป็นอาชีพ หรือ เลือกล้มเหลวได้ด้วยตัวเอง ไม่เกี่ยวข้องกับการที่ประเทศเราจะอนุญาตให้มีหรือไม่มี เพราะสุดท้าย จะอนุญาต หรือ ไม่อนุญาต คนที่ประสบความสำเร็จ ก็ยังอยุ่ในกลุ่ม 10% เหมือนเดิม

        สิ่งที่สำคัญ เทรดเดอร์ตีความ อาชีพเทรดเดอร์ว่าอย่างไร เพื่อปากท้องวันต่อวัน? หรือ เพื่อความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ เรามีตัวอย่างเทรดเดอร์มืออาชีพในตลาดหุ้นมากมายให้ศึกษา แน่นอนเขาไม่ได้หวังกำไร เพื่อปากท้องวันต่อวัน

       หรือหวังให้ประทั่งชีวิตเป็นเดือนๆไป เมื่อเขามีเป้าหมาย มีจุดหมาย เขาย่อมรู้ดีกว่า จะเทรดอย่างไรให้ไปถึง ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่


 บทความที่น่าสนใจ

-> 33 ข้อคิดสำหรับคนที่คิดอยากจะเป็นนักลงทุน อยากให้ทุกคนได้อ่านกันครับ

1. คิดได้ แต่ไม่ทำก็ไม่มีวันสำเร็จ ต้องทำและทำทันที จะได้ไม่ต้องเสียใจว่าไม่ได้ทำตามที่คิดได้2. ไม่มีเวลา คือข้ออ้างของคนขี้เกียจ3. สิ่งที่คนมองข้าม นั่นแหละคือโอกาสของเรา4. คิดและทำมากกว่าพูด
 ยินดีต้อนรับเข้าสู่สังคมการเทรด Forex

http://lenhune.blogspot.com/2013/08/blog-post.html

1. คิดได้ แต่ไม่ทำก็ไม่มีวันสำเร็จ ต้องทำและทำทันที จะได้ไม่ต้องเสียใจว่าไม่ได้ทำตามที่คิดได้
2. ไม่มีเวลา คือข้ออ้างของคนขี้เกียจ
3. สิ่งที่คนมองข้าม นั่นแหละคือโอกาสของเรา
4. คิดและทำมากกว่าพูด
5. ขยันไม่ถูกช่องทาง ไม่ถูกวิธี ก็ไม่มีวันรวย
6. 9 ชีวิตเยอะสำหรับแมว แต่น้อยสำหรับนักธุรกิจ ล้มแล้วต้องลุกได้เสมอ
7. มีความรู้อยู่กับตัวไม่ต้องกลัวคมว่าล้มเหลว
8. รู้ลึก รู้จริง เก่งด้านเดียวก็รวยได้
9. ต้องรู้จักพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ การย่ำอยู่กับที่คือการถอยหลัง
10. ทำธุรกิจย่อมมีปัญหา รู้แล้วจงอย่ากลัว
11. ธุรกิจที่มีคนทำเยอะ เพียงแค่เราทำให้ดีกว่าก็แตกต่างแล้ว ไม่จำเป็นต้องคิดใหม่ทำใหม่เสมอไป
12. อย่าตั้งเป้าหมายไกลเกินตัว มันจะทำให้คุณท้อได้ เพราะไปไม่ถึงเป้าหมายเสียที
13. อย่ามัวแต่ตั้งคำถาม ถ้าไม่ทำก็ไม่เจอคำตอบ
14. คลื่นลมแรง เรือเล็กควรออกจากฝรั่ง (เป็นแฟนเพลงบอดี้สแลม)
15. กำลังใจเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า เมื่อเรารู้ว่าทำเพื่อใคร
16. ของแพง ขายยาก แต่กำไรดี รวยเร็ว
17. แค่เปลี่ยนแนวคิด ชีวิตก็เปลี่ยนได้
18. ร้อยรู้หรือจะสู้ลงมือทำ
19. เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือปลาร้ายังมีหนอน อย่าคิดว่าเราเก่งที่สุด ต้องพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ
20. อย่าทำตัวเป็นน้ำที่เต็มแก้ว ให้ทำตัวเป็นแก้วที่ว่างเปล่าพร้อมที่จะรับเอาความรู้ใหม่เสมอ
21. วิธีประสบความสำเร็จไม่สามารถระบุจำนวนได้
22. ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงใช้ได้ดีกับการทำธุรกิจ
23. อย่าลืมจุดกำเนิดของตัวเอง
24. อยากทำธุรกิจอย่ามองข้ามการออม
25. ที่ไหนมีคน ที่นั่นมีเงิน
26. ทำเลดี มีชัยไปกว่าครึ่ง
27. คนจำนวนมากอยากมีอิสระไม่อยากเป็นลูกน้องของใคร แต่คนจำนวนมากเช่นกันที่อยากเป็นเจ้านายของคนอื่น
28. ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน เป็นเรื่องจริงเสมอ
29. ต้องรู้จักบริหารเวลา เพราะเวลาเป็นต้นทุนที่ผ่านไปแล้วผ่านไปเลย
30. มีเงินเยอะแต่ไม่ฉลาดใช้ไม่นานเงินก็จะหมด
31. ความเพ้อฝันไม่ใช่เรื่องเพ้อเจ้อสำหรับคนทำธุรกิจ
32. การทำธุรกิจต้องมีสไตล์เป็นของตัวเอง อย่าลอกเลียนแบบคนที่สำเร็จ ควรดูเป็นแค่ตัวอย่าง
33. เราไม่รู้ว่าจะมีชาติหน้าหรือเปล่า คนเราเกิดมาชาติเดียวอยากทำอะไรต้องลงมือทำ สิ่งที่เราได้จากการลงมือทำคือประสบการณ์ แล้วซักวันหนึ่งความสำเร็จจะเป็นของเรา

 บทความที่น่าสนใจ

-> forex ผิดกฏหมายหรือไม่ หรือผิดกฏหมายฟอกเงินหรือไม่

-> forex ผิดกฏหมายหรือไม่ หรือผิดกฏหมายฟอกเงินหรือไม่
หาก ได้ยินคนที่บอกว่าผิดกฎหมาย เค้าอาจยังไม่เข้าใจกฎหมาย หรือไม่เคยปรึกษานักกฎหมาย ไม่เคยปรึกษา ธปท. หรือ กลต. การที่เรา
 ยินดีต้อนรับเข้าสู่สังคมการเทรด Forex
http://lenhune.blogspot.com/2013/08/blog-post.htmlhttp://lenhune.blogspot.com/2013/08/blog-post.html
หาก ได้ยินคนที่บอกว่าผิดกฎหมาย เค้าอาจยังไม่เข้าใจกฎหมาย หรือไม่เคยปรึกษานักกฎหมาย ไม่เคยปรึกษา ธปท. หรือ กลต. การที่เราเทรด Forex โดยเปิดบัญชีเทรด กับโบรกเกอร์ต่างประเทศ ***ไม่ผิดกฎหมายไทยนะครับ***
ไม่ มีกฎหมายข้อใด หรือฉบับใดในประเทศไทย ที่บัญญัติให้การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดและมีโทษคือ จะมีปัญหาก็จะเป็นพวกที่แสดงตัวเสมือนว่าเป็นโบรกเกอร์อยู่ในไทยเท่านั้น (แอบอ้าง)เพราะ กลต. ยังไม่อนุญาตให้เปิดโบรกเกอร์เทรด Forex ในไทยครับแต่การที่เราเป็นคนเทรด กับ โบรกเกอร์ของต่างประเทศ ไม่ผิดกฎหมายครับการเล่น Forex ก็ไม่เข้าข่ายการแลกเปลี่ยน "เงินตรา" ตามความหมายของกฎหมายของ ธปท.เพราะเป็นการเก็งกำไรค่าเงิน (เสมือน) ที่กระทำในต่างประเทศ เท่านั้นถ้าเราเป็นคนเทรด ผลเสียก็จะมีแค่ว่า กลต. ไม่สามารถไปควบคุมหรือดูแลโบรกเกอร์ได้เลยหาก โบรกเกอร์ต่างประเทศนั้นโกงหรือทำอะไรผิดปกติ เราก็ต้องไปฟ้องร้องต่อสู้เอาเอง พูดถึงโดยรวม บางโบคเกอร์ไม่ได้จดทะเบียนกับสหพันธ์ยุโรปเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค (เทรดเดอร์)ต่างจากโบรกเกอร์หุ้นในไทย ที่จะอยู่ภายใต้กฎหมายไทย และการควบคุมของ กลต. ครับและอีกประการก็คือ เรื่องการโอนเงินไปต่างประเทศ ที่ก็ต้องอยู่ภายในกฎเกณฑ์ทั่วไปของ ธปท.แต่ปัจจุบัน หลายโบรกก็สามารถใช้ E-currency ระหว่างประเทศซึ่งไม่อยู่ภายใต้กฎหมายและอำนาจของ ธปท. แต่อย่างใดครับ

***แล้วทำไม กลต. ถึงไม่อนุญาตให้เปิดโบรกเกอร์เทรด Forex ในไทย ***ใช้คำว่า"ผิดกฏหมาย" คงไม่ถูกครับ น่าจะใช้คำว่า "ไม่มีกฏหมายมารองรับ"หมายความว่าคุณสามารถเล่นได้ทำไร/ขาดทุนได้ปกติครับ

แต่ เนื่องจากกฏหมายในบ้านเรายังไม่มีรองรับเรื่องนี้ ทำให้คุณต้องลงทุนผ่านตัวแทนต่างประเทศถ้าเกิดมีปัญหาขัดแย้งอะไรขึ้น มันจะลำบากแค่นั้นเอง ไม่มีหน่วยงานมารับประกันวิธีนี้แก้ไขได้โดยการเลือกโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อ ถือครับ อย่ากลัวเรื่องกฏหมายเลยครับ คนไทยเองก็เล่น Forex กันมานานแล้ว

 บทความที่น่าสนใจ